
นักเศรษฐศาสตร์! ทะลวง “จุดอ่อน” แจกเงินดิจิทัล ‘บุญยอด’ เกทับลุงตู่เติมให้ 12,000 เจ๋งกว่า ‘เศรษฐา’
เศรษฐศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์จากกระทรวงการคลัง สะท้อนแนวนโยบายแจกเหรียญดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ถ้าหากได้เป็นรัฐบาลจะบรรลุ 2 ข้อเป็น กระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งพลเมืองโดยมากเคยชินกับเทคโนโลยีบล็อกศาสนาเชนซึ่งยอดเยี่ยมในเทคโนโลยีสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล เตือนพสกนิกรจะต้องทราบและก็รู้เรื่องว่า “ของฟรีไม่มีในโลก” เพราะว่ารัฐบาลจำต้องจัดแจงเงินบาทจริงๆ5 แสนล้านบาท ไว้ให้พ่อค้าแม่ค้านำเหรียญดิจิทัลไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทในสภาพการณ์ที่งบประมาณมีจำกัด รวมทั้งพสกนิกรกรุ๊ปอนาถาเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับการทำแนวนโยบายเหรียญดิจิทัลให้ประสบผลสำเร็จ รวมทั้งชาวไทยทุกคนก็เลยจะได้ประโยชน์จากแนวนโยบายนี้จริง นับว่าเป็นเรื่องที่ท้ารวมทั้งฝันหวานได้เหมือนกัน ด้าน ‘บุญยอด’ ผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อพรรคคุณลุงตู่ แจงบัตร “คุณลุงตู่ 1,000 บาทต่อเดือน 1 ปีได้หมื่นสอง! ใช้ตามธรรมดา ดียิ่งกว่าเงินดิจิทัลเพื่อไทยซึ่งธนาคารชาติยังไม่อนุญาต!” แม้เอ่ยถึงแนวทางเศรษฐกิจที่เสนอโดยพรรคการเมืองต่างๆสำหรับในการลงคะแนนเสียงใหญ่ที่กำลังจะออกเดินทางมาถึงในช่วงเวลาอีกราวๆ 1 เดือนด้านหน้าแล้ว ข่าวสารเศรษฐวิทยา แนวนโยบายที่เป็นกระแสและก็ถูกพูดถึงเยอะที่สุดณ ข่าวเศรษฐศาสตร์ เวลานี้คงหนีไม่พ้นแนวทางเงิน หรือเหรียญดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย ที่จะทำแจกเหรียญดิจิทัลให้คนประเทศไทยทุกคนที่แก่มากยิ่งกว่า 16 ปี รายละ 10,000 บาท โดยมีเงื่อนไขหลักเป็นเหรียญดิจิทัลนี้จะหมดอายุใน 6 เดือน ซึ่งแม้ไม่ใช้เหรียญดิจิทัลนี้จะหายไป จำเป็นต้องใช้ในรัศมี 4 กม.จากที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งในทางปฏิบัติบางทีอาจเปลี่ยนแปลงระยะทางได้ ดังเช่นว่า ในพื้นที่ไกลห่างบางทีอาจกำหนดให้ใช้ในรัศมีที่ไกลกว่า 4 กิโล โดยไม่อาจจะเอาไปใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์อบายมุข ตัวอย่างเช่น สุรา ยาสูบ และไม่สามารถนำไปใช้หนี้นอกระบบได้ โดยมีอีกทั้งเสียงเชียร์และก็เสียงถกเถียง ตามมาด้วยปัญหามากจากกรุ๊ปต่างๆที่มีความแคลงใจแล้วก็หวังดีในแผนการนี้ อีกทั้งเรื่องจะนำเงินมาจากไหน แน่ใจว่าควรต้องใช้เงินกู้ยืม ซึ่งจะสร้างภาระหน้าที่ให้คนรุ่นใหม่ตามมา เพราะอะไรต้องกำหนดแจกเด็ก 16 ปีขึ้นไป ถือได้ว่าเป็นการตกเขียวใช่หรือไม่ใช่? รวมถึงความสุ่มเสี่ยงในเรื่องผลตอบแทนทับซ้อนที่บางครั้งอาจจะพันพัวกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาผู้นำครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค เพราะเหตุว่าเคยเป็นผู้จัดตั้งหรือประธานธุรกิจทรัพย์สินดิจิทัล หรือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนก็ตาม
แนะนำข่าวเศรษฐศาสตร์ อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : ระบบบำนาญแห่งชาติที่มีความเป็นธรรมและยั่งยืน